Sunday, October 10, 2010

ครั่งผลิตแชลค

ครั่ง มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า แลกซิเฟอร์ แลคคา ( Laccifer lacca Kerr ) ครั่งเป็นแมลงชนิดหนึ่งตัวสีแดง ขนาดเล็กมาก อาศัยอยู่บนต้นไม้ ทำรังเป็นยางแข็งหุ้มกิ่งไม้ไว้เพื่อป้องกันตนเองให้พ้นภัยจากศรัตรู

ตัวครั่งมีประโยชน์ ใช้ทำสีสำหรับย้อมผ้าไหม หรือย้อมหน้าฟอกสีได้ รังครั่งมีประโยชน์ ใช้ทำสิ่งของได้หลายอย่างใช้เคลือบผ้าพันสายไฟฟ้า หรือเคลือบเม็ดยาให้เป็นมัน หรือทำสีผสมอาหารก็ได้ นอกจากนั้นยังใช้ทำสิ่งของชนิดอื่นๆได้อีกมากมายหลายชนิด

ครั่ง เป็น แมลงเบียนของต้นไม้ จึงนับว่าเป็นศัตรูของไม้ที่อาศัย แมลงครั่งจะใช้ปากซึ่งเป็น งวงดูดน้ำเลี้ยง จากต้นไม้เพื่อใช้เลี้ยงชีวิต แล้วระบาย ยาง หรือ ชัน ชนิดหนึ่ง มีลักษณะนิ่มเหนียวสีเหลืองทองออกจากตัวมัน เมื่อถูกอากาศจะแข็งตัวกลายเป็นสีน้ำตาลเพื่อห่อหุ้มตัวป้องกันอันตรายจากสิ่งภายนอก เรียกสารตัวนี้ว่า ครั่ง

ครั่งตัวผู้ ลำตัวยาวรี ลำตัวสีแดง มี 2 ตา หนวด 2 เส้น มี 2 ชนิดคือ ตัวมีปีก กับ ไม่มีปีก ตัวมีปีกจะบินไปผสมกับครั่งบนกิ่งไม้ตัวอื่นได้ พวกไม่มีปีกจะคลานไปผสมกับครั่งตัวเมียที่เกาะกิ่งต้นเดียวกัน หลังผสมพันธุ์ตัวผู้ก็จะตาย ครั่งตัวเมีย ให้ลูกคราวละประมาณ 300 ตัว หลังฟักตัวอ่อน แม่ครั่งจะเหลือเพียงถุงเปล่าแล้วแห้งตายไป

ชิ้นส่วนของครั่งที่นำมาใช้ประโยชน์คือ.....สีครั่ง และ เนื้อครั่ง โดยใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับอุตสาหกรรมหลายชนิด เช่น สีย้อมผ้า ทำครั่งแผ่น ทำฉนวนไฟฟ้า ฟอกยาง ใช้ทำแล็กเกอร์ สีทารถยนต์ สีทาเล็บ ขี้ครั่ง ยาขัดรองเท้าและน้ำมันขัดพื้น ใช้ในอุตสาหกรรมกระดาษ น้ำมัน เครื่องห่อวัตถุระเบิด ทำหมึกพิมพ์กันน้ำ เคลือบผิวผลไม้ ทำกาวแผ่น พรมน้ำมัน เครื่องเล่นของเด็ก เครื่องประดับต่างๆ ใช้ในการแพทย์ติดฟันปลอม เคลือบยาเม็ดเวชภัณฑ์ ฯลฯ

เนื่องจากครั่งมีประโยชน์ต่อมนุษย์อย่างมากมาย เช่น “ตัวครั่ง” ใช้ทำสีสำหรับย้อมผ้า ย้อมไหม หรือย้อมหนังสัตว์ “รังครั่ง” ยังมีประโยชน์ใช้ทำสิ่งของได้หลายอย่าง ใช้เคลือบผ้าพันสายไฟฟ้า หรือ เคลือบเม็ดยาให้มันและป้องกันความชื้น หรือ ใช้ทำสีผสมอาหาร นอกจากนี้ยังใช้เป็นส่วนประกอบในยาแผนโบราณเพื่อรักษาโรคบางชนิด ประโยชน์ที่สำคัญของครั่ง คือ ใช้ทำแชลแลคสำหรับทาไม้ให้เงาสวยงามทนทาน “ครั่ง” จึงยังเป็นที่ต้องการของหลายประเทศ แต่มีเพียงไม่กี่ประเทศเท่านั้นที่สามารถผลิตครั่งส่งออกได้ โดยประเทศไทย ถือเป็นประเทศที่ส่งออก “ครั่ง” ได้เป็นอันดับ 1 ใน 2 ของโลกรองจากประเทศอินเดีย

โดยส่วนที่นิยมนำมาใช้ประโยชน์ทางอุตสาหกรรม คือ สีจากครั่ง ที่ได้จากการสกัดน้ำล้างครั่ง นำไปใช้ทำสีย้อมผ้า ย้อมขนสัตว์ หรือใช้เป็นสีผสมอาหาร และเนื้อครั่ง หรือ ครั่งเม็ด ( Seed Lac) นำไปผลิตเป็น “แชลแลค” ถือเป็นพลาสติกจากธรรมชาติที่สุด ( Nature plastics ) แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ แชลแลคธรรมดา แชลแลคขาวหรือ แชลแลคฟอกสี และแชลแลคปรุงแต่ง ปัจจุบันมีการนำเอาแชลแลคมาใช้ประโยชน์ทางอุตสาหกรรมต่างๆ มากขึ้น อาทิ อุตสาหกรรมยา อุตสาหกรรมกระดาษ อุตสาหกรรมหมึกพิมพ์ อุตสาหกรรมเกี่ยวกับวัสดุที่เป็นฉนวนไฟฟ้า และ อุตสาหกรรมยาง

นอกจากประโยชน์ดังกล่าว ยังมีการนำเอาแชคแลคมาใช้อย่างอื่นอีก เช่น ใช้เคลือบผิวผลไม้ ทำให้เหี่ยวช้าลงกว่าปกติ ใช้เคลือบลูกกวาด ยาเม็ด ใช้ในการผลิตน้ำยาล้างฟิล์มถ่ายรูป เป็นส่วนประกอบการในสารฆ่าเชื้อราสำหรับหนังสือ สารฆ่าแมลง หรือ ยาทาเล็บ เป็นต้น

เนื่องจากแชลแลคเป็นพลาสติกธรรมชาติ( Natural plastics )ที่มีคุณสมบัติทางเคมีเฉพาะ เช่น สี ความเปราะ และไม่คงตัวเมื่อถูก oxidized ได้ง่าย ดังนั้น การใช้ประโยชน์จากแชลแลคจึงต้องมีการพัฒนาคุณภาพของสารเคลือบที่ใช้วัตถุดิบ ที่มาจากแชลแลค และการพัฒนาเทคโนโลยีในการเคลือบโดยใช้แชลแลค จึงจะสามารถใช้ประโยชน์จากแชลแลคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ฉะนั้นการพัฒนาคุณภาพแชลแลคจึงต้องสามารถแก้ปัญหาคุณสมบัติทางกายภาพและเคมี ของแชลแลคในการแปรรูปจากแชลแลคขาวเกรดที่ใช้กับอาหารและยา เป็นสารหรือน้ำยาสำหรับเคลือบหรือแว็กซ์ผลไม้นั้นต้องมี know how เฉพาะ จึงอาศัยจากผู้เชียวชาญที่ทางโครงการ iTAP จัดหาเข้ามาทำวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์แชลแลคขาวของบริษัท เพื่อต่อยอดเป็นสารเคลือบเม็ดยาและอาหารประเภทคอนเฟคชั่นนารี่ หรือ ลูกกวาด

ข้อดีของการ Modified แชลแลคขาว จะทำให้มีอายุการใช้งานได้ยาวนานขึ้น และสะดวกในการเก็บรักษาโดยไม่จำเป็นต้องเก็บไว้ในห้องเย็น สามารถทนต่อสภาพอุณหภูมิปกติได้ ช่วยขจัดข้อจำกัดทางธรรมชาติของการใช้แชลแลคขาวจากเดิมที่ไม่สามารถทนต่อ อากาศร้อนได้จะเกิดการเกาะตัวติดกันเป็นก้อนทำให้ความนิยมลดลงและหันไปใช้ สารเคลือบสังเคราะห์ที่มีราคาสูงแทน อาทิ EUDRAGIT แต่แชลแลคนั้น ถือเป็นพลาสติกทางธรรมชาติที่ดีที่สุด และปลอดภัยที่สุด เพราะเป็นผลผลิตที่ได้จากแมลงครั่ง

No comments: